จุดประสงค์ของหนังสือ
ทำไมเราสามารถคุยเรื่องของพระเจ้าได้และไม่มีใครขุ่นเคือง แต่เมื่อเริ่มพูดถึงพระเยซูบ่อยครั้งที่ผู้คนจะหยุดการสนทนากับคุณ ทำไมผู้คนทั้งชายและหญิงในหลายยุคหลายสมัยจึงแตกแยกกันเมื่อมีคำถามที่ว่า “พระเยซูคือผู้ใด”
สองพันกว่าปีที่ผ่านมา พระเยซูได้ทรงรับสภาพมนุษย์ในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของชาวยิว พระองค์ทรงประสูติในครอบครัวที่ยากจนซึ่งอาศัยอยู่ ณ หนึ่งในเมืองที่เล็กที่สุดในโลก บางคนอาจคิดว่าประชากรของพระองค์นั้นไม่สำคัญ พระองค์ทรงอยู่บนโลกสามสิบสามปี พระองค์ทรงกรำพระราชกิจในช่วงสามปีสุดท้ายของชีวิตของพระองค์
แต่กระนั้น คนส่วนใหญ่ในเกือบทุกแห่งยังคงจดจำพระองค์ได้ วันที่ที่มีการบันทึกไว้ได้เป็นพยานหลักฐานถึงความจริงที่ว่าพระเยซูทรงดำเนินชีวิตที่เกิดผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาต่อทุกชีวิตบนโลก
เอซ. จี. เวลส์ นักเขียนประวิติศาสตร์ที่เป็นที่รู้จักถูกถามถึงบุคคลที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาตอบว่าหากคุณตัดสินความยิ่งใหญ่ของบุคคลโดยใช้หลักการทางประวัติศาสตร์ เมื่อนั้น “โดยการใช้หลักการทดสอบนี้ พระเยซูจะมาเป็นอันดับแรก”
เคนเนท สก็อตต์ ลาตัวเรทท์ นักเขียนประวัติศาสตร์กล่าวว่า : “จากหลายพันปีที่ผ่านมาหลักฐานปรากฏว่าชีวิตของพระเยซูมีอิทธิพลทางประวัติศาสตร์มากยิ่งกว่าชีวิตของบุคคลใด ๆ บนโลก และอิทธิพลนั้นก็ดูเหมือนจะเติบโตมากขึ้น”
เอิร์นเนสท์ เรนัน กล่าวว่า “พระเยซูเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดยิ่งกว่าบุคคล ใด ๆ ความงดงามของพระองค์นั้นคงอยู่ตลอดกาล และฤทธิ์เดชของพระองค์ก็ไม่มีสิ้นสุด ไม่มีใครที่จะเทียบได้กับพระเยซู ไม่มีสิ่งใดที่จะเทียบได้กับพระองค์ ประวัติศาสตร์ทั้งมวลก็ไร้ความหมายหากปราศจากพระคริสต์”
เนื้อหาในเล่ม ประกอบด้วย
บทที่ 1 สิ่งที่ทำให้พระเยซูแตกต่างคืออะไร
บทที่ 2 องค์พระผู้เป็นเจ้า จอมลวงโลกหรือคนเสียจริต
บทที่ 3 วิทยาศาสตร์ว่าไว้อย่างไร
บทที่ 4 สิ่งที่บันทึกในพระคัมภีร์เป็นจริงหรือ
บทที่ 5 จะมีสักกี่คนที่ยอมตายเพื่อคำโกหก
บทที่ 6 สิ่งดีจากการสิ้นพระชนม์ของพระผู้ช่วยให้รอดคืออะไร
บทที่ 7 คุณเคยได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเซาโลหรือไม่
บทที่ 8 คุณสามารถทำให้องค์ผู้ประเสริฐนี้ด้อยค่าลงได้หรือ
บทที่ 9 พระเมสสิยาห์ที่แท้จริงจะยืนหยัดขึ้นได้หรือไม่
บทที่ 10 ไม่มีทางเลือกอื่นหรือ
บทที่ 11 พระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตผม
คำอภิธานศัพท์
ตัวอย่างบางส่วนจากหนังสือ
พระองค์ลวงโลกหรือ
เมื่อพระเยซูประกาศตนเองว่าทรงเป็นพระเจ้า แต่ถ้าพระองค์รู้ตัวว่าพระองค์ไม่ได้เป็นพระเจ้า นั่นก็หมายความว่าพระองค์กำลังโกหก พระองค์ก็คงจะนำสาวกของพระองค์ไปผิดทางอย่างตั้งใจ และถ้าพระองค์เป็นผู้หลอกลวง ดังนั้นชีวิตของพระองค์ก็หลอกลวงด้วย พระองค์บอกผู้คนให้ซื่อสัตย์ ไม่ว่าจะต้องเสียอะไร ในขณะที่พระองค์เองกลับสอนและดำเนินชีวิตด้วยโกหกคำโตหรือ ยิ่งกว่านั้น พระองค์อาจเป็นปีศาจร้ายจากนรกก็ได้ พระองค์บอกให้ผู้คนวางใจในพระองค์สำหรับชีวิตนิรันดร์ ถ้าพระองค์ไม่สามารถสนับสนุนคำกล่าวอ้างของพระองค์ได้และรู้อยู่แก่ใจ ดังนี้พระองค์ก็เป็นปีศาจที่อยู่นอกเหนือถ้อยคำ สุดท้าย พระองค์ก็คงจะเป็นคนเขลาคนหนึ่ง เพราะว่าการประกาศตนเองของพระองค์ว่าเป็นพระเจ้าได้นำพระองค์ไปสู่การสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน
หลายคนอาจจะบอกว่าพระเยซูเป็นอาจารย์สอนจริยธรรมที่ดีคนหนึ่ง ขอให้คิดเดี๋ยวนี้! พระองค์จะเป็นอาจารย์จริยธรรมที่ยิ่งใหญ่ แต่โกหกผู้คนว่าพระองค์เป็นใครได้อย่างไร? นี่เป็นประเด็นสำคัญที่สุดในคำสอนของพระองค์
หากคุณคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างยุติธรรม คุณอาจต้องบอกว่าพระองค์เป็นคนที่หลอกลวงโดยตั้งใจ อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ของพระเยซูนี้ไม่เข้ากันกับสิ่งที่เรารู้ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับพระองค์หรือชีวิตและคำสอนของพระองค์ ทุกที่ที่พระเยซูเป็นที่รู้จักชีวิตหลายชีวิตก็เปลี่ยนไปสู่การดี ประชาชาติเปลี่ยนแปลงมีชีวิตที่ดีกว่า คนเหล่านั้นที่ลักขโมยก็กลับกลายเป็นคนที่สัตย์ซื่อ คนติดเหล้าได้รับการฟื้นฟู คนที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังกลับกลายเป็นคนที่มอบความรักให้แก่ผู้อื่น คนที่อยุติธรรมกลับกลายเป็นคนยุติธรรม