วิธีการรับเอาพลังของพระเจ้า
1 โครินธ์ 4:20
การประยุกต์โฆษณา "ถ้าไม่มีพลังงานจะเป็นอย่างไร" ของ ปตท. กับเรื่อง "วิธีรับเอาพลังของพระเจ้า"
จากวีดิโอโฆษณาของ ปตท. ที่ถามคำถามสำคัญอยู่ 2 คำถามว่า "ถ้าไม่มีพลังงานจะเป็นอย่างไร" และ "เรามีคำตอบสำหรับอนาคตหรือยัง" สามารถประยุกต์เข้ากับเรื่อง "วิธีรับเอาพลังของพระเจ้า" ได้อย่างลึกซึ้งในหลายมิติ
การเปรียบเทียบระหว่างพลังงานกายภาพและพลังงานฝ่ายจิตวิญญาณ
พลังงานกายภาพ (จากโฆษณา ปตท.)
พลังงานฝ่ายจิตวิญญาณ (พลังของพระเจ้า)
การประยุกต์ใช้คำถามจากโฆษณา ปตท.
1. คำถามเดิม: "ถ้าไม่มีพลังงานจะเป็นอย่างไร" ประยุกต์สู่: "ถ้าไม่มีพลังของพระเจ้าจะเป็นอย่างไร"
คำตอบ: ชีวิตจะขาดความหมายและทิศทาง ไม่มีพลังในการเอาชนะความยากลำบาก ไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเต็มศักยภาพ ต้องพึ่งพาตนเองเพียงลำพัง ซึ่งมีข้อจำกัด
2. คำถามเดิม: "เรามีคำตอบสำหรับอนาคตหรือยัง" ประยุกต์สู่: "เรามีแผนในการรับเอาพลังของพระเจ้าหรือยัง"
คำตอบ: มีแผนการอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ พร้อมที่จะเสี่ยงเชื่อฟังพระเจ้าหรือไม่ มีความมุ่งมั่นที่จะไม่ยอมแพ้หรือไม่
"ถึงเวลาแล้วที่เราต้องสร้างจิตสำนึกใหม่ ใช้พลังของพระเจ้าอย่างรู้คุณค่า"
ลองจินตนาการดูว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เหมือนกับว่าปัญหาต่างๆ มาพร้อมกันหมด ในช่วงเวลาเดียวกัน คุณได้รับแจ้งว่าการงานมีปัญหา ลูกป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังต้องดูแลสุขภาพของตัวเองและคนอื่นด้วย ปัญหาครอบครัวปัญหาเศรษฐกิจ
ทั้งร่างกายและจิตใจเริ่มอ่อนล้า บางครั้งรู้สึกว่า หมดพลัว ไม่มีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อไป
ในสถานการณ์เหล่านี้ แค่พึ่งพาพลังหรือกำลังของตัวเองนั้นไม่เพียงพอ
เราต้องการพลังที่มากกว่าความสามารถของมนุษย์ธรรมดา เราต้องการพลังที่มาจากพระเจ้า พลังที่จะช่วยให้เราอดทนผ่านพ้นวิกฤต พลังที่จะให้ปัญญาในการตัดสินใจ พลังที่จะเติมเต็มหัวใจที่ว่างเปล่าด้วยความหวัง และพลังที่จะทำให้เรายืนหยัดอยู่ได้เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะพังทลาย
นี่คือเหตุผลที่เราต้องการเรียนรู้วิธีการรับเอาพลังของพระเจ้า
เพราะชีวิตไม่ได้เป็นเพียงแค่การเอาตัวรอดวันต่อวัน แต่เป็นการมีชีวิตที่เติมเต็มแม้ในท่ามกลางความยากลำบาก เป็นการมีความแข็งแกร่งที่มาจากแหล่งพลังที่ไม่มีวันหมด และเป็นการมีความสงบสุขที่ไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภายนอก
มาดูกันว่าพระคัมภีร์สอนเราอย่างไรเกี่ยวกับการรับเอาพลังนี้...
เพื่อที่จะมีชีวิตที่เติมเต็มและสมบูรณ์ เราต้องใช้ชีวิตด้วยพลังของพระเจ้า
พระคัมภีร์กล่าวไว้ใน 1 โครินธ์ 4:20 ว่า
"เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าไม่ใช่เรื่องของถ้อยคำ แต่เป็นเรื่องฤทธิ์เดช"
1 Corinthians 4:20
"For the kingdom of God is not a matter of talk but of power."
เราไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อที่จะมีชีวิตที่เติมเต็มและอุดมสมบูรณ์ไดด้ด้วยตัวเราเอง พระเจ้าทรงใช้และทรงอวยพรแก่ผู้ที่พึ่งพาและยอมจำนนต่อพระองค์ และพระองค์สามารถทำได้มากกว่าที่คุณเคยจินตนาการไว้!
แต่ก่อนอื่น คุณต้องใช้ชีวิตด้วยพลังของพระองค์ เอเฟซัส 3:19-20 กล่าวว่า "'คือให้ซาบซึ้งในความรักของพระคริสต์ซึ่งเกินความรู้ เพื่อพวกท่านจะได้รับความบริบูรณ์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม ขอให้พระเกียรติมีแด่พระองค์ผู้ทรงสามารถทำทุกสิ่งได้มากยิ่งกว่าที่เราทูลขอหรือคิด โดยฤทธานุภาพที่ทำกิจอยู่ภายในเรา"
แล้วเราจะรับเอาพลังของพระเจ้าในชีวิตได้อย่างไร? มีสามวิธี
1. เรารับเอาพลังของพระเจ้าได้โดยการอธิษฐาน
หากวันนี้ เราไม่มีพลังใดๆ ในชีวิต นั่นอาจหมายความว่าเราไม่ได้อธิษฐาน การอธิษฐานและพลังเป็นสิ่งที่ไปด้วยกัน ยากอบ 5:16 กล่าวว่า "คำอธิษฐานของผู้ชอบธรรมนั้นมีพลังทำให้เกิดผล"
2. เรารับเอาพลังของพระเจ้าได้โดยการกล้าที่จะเชื่อฟังพระองค์
เมื่อเรากล้าที่จะทำในสิ่งที่พระเจ้าทรงบอกเราให้ทำ แม้ว่าจะยากลำบาก แม้ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่าย แม้ว่าจะดูไม่สมเหตุสมผล แม้ว่าจะไม่มีใครทำเช่นนั้น—เมื่อเรากล้าที่จะเชื่อฟัง พระเจ้าจะเทพลังของพระองค์ลงมาในชีวิตของเรา
3. เรารับเอาพลังของพระเจ้าได้โดยการไม่ยอมแพ้
อย่ายอมแพ้! เพื่อที่พระเจ้าจะทำให้ความเชื่อของเราเติบโต พระองค์มักจะทดสอบความเชื่อนั้น เมื่อเรากำลังผ่านความยากลำบาก หรือความล่าช้า หรือทางตัน หรือความสิ้นหวัง หรือความท้อแท้ พระเจ้าทรงสอนเราให้วางใจในพระองค์ จงอดทนรอคอย—และดูว่าพระองค์จะอวยพรเราอย่างไร!
พระเจ้าสามารถทำในชีวิตของเราได้ในหนึ่งสัปดาห์มากกว่าที่เราจะทำได้ตลอดชีวิต นั่นคือเหตุผลที่ไม่มีวันสายเกินไปที่จะยอมจำนนต่อพระเจ้า เราอาจจะพูดว่า "ฉันแก่เกินไปแล้ว ฉันมีปัญหามากมาย! ฉันทำผิดมามากแล้ว" ไม่ใช่ ไม่มีวันสายเกินไปที่จะหันมาหาพระเจ้าและเริ่มใช้ชีวิตด้วยพลังของพระองค์ พระองค์ทรงรอที่จะประทานพลังนั้นแก่เรา!
คำถามเพื่อการไตร่ตรอง
มีด้านใดในชีวิตของคุณที่คุณรู้สึกอยากจะยอมแพ้หรือไม่? จงอดทนรอคอย! พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะอวยพรคุณหากคุณไม่ยอมแพ้
จากคำถามสู่การปฏิบัติ: "อย่ายอมแพ้ในสิ่งที่คุณกำลังต่อสู้"
คำถามนี้เป็นหนึ่งในคำถามที่เจาะลึกที่สุดในชีวิตของเรา เพราะทุกคนต่างมีสิ่งที่กำลังต่อสู้อยู่ และบางครั้งก็รู้สึกเหนื่อยจนอยากยอมแพ้
ด้านต่างๆ ที่คนเรามักจะรู้สึกอยากยอมแพ้
ด้านความสัมพันธ์ในครอบครัว “พระเจ้าทรงทำงานในครอบครัวของคุณแม้ว่าคุณจะมองไม่เห็น พระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงใจคนและสถานการณ์ได้ในเวลาที่พระองค์ทรงเห็นสมควร"
ด้านสุขภาพและความเจ็บป่วย "พระเจ้าทรงเป็นพระผู้รักษา พระองค์อาจรักษาด้วยการรักษาทางการแพทย์ หรืออาจให้พลังในการอยู่ร่วมกับความเจ็บป่วย แต่พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งคุณ"
ด้านการงานและอาชีพ "พระเจ้าทรงมีแผนการสำหรับชีวิตการงานของคุณ แม้ว่าประตูหนึ่งจะปิด พระองค์ก็ทรงเปิดประตูอื่นที่ดีกว่า"
ด้านการเงินและหนี้สิน "พระเจ้าทรงทราบความต้องการของคุณ พระองค์ทรงจัดหาทางออกและโอกาสใหม่ๆ ให้ในเวลาที่เหมาะสม"
เติมพลังของพระเจ้าในชีวิต หากคุณคิดจะยอมแพ้
พระคัมภีร์สอนเราว่า พระเจ้าทรงเป็นแหล่งพลังที่ไม่มีวันหมด และพระองค์ทรงรอคอยที่จะเติมเต็มเราด้วยพลังของพระองค์ อย่าขาดการเชื่อมต่อกับพระเจ้า บ่อยครั้งที่ความรู้สึกอยากยอมแพ้เกิดขึ้นเพราะเราพยายามแก้ปัญหาด้วยกำลังของตัวเอง โดยลืมไปว่าพระเจ้าทรงเป็นแหล่งกำลังที่แท้จริง การได้รับพลังของพระเจ้าไม่ได้หมายความว่าชีวิตจะง่ายขึ้น แต่หมายความว่า เราจะมีพลังในการเผชิญกับความยากลำบาก และ เรามีพระเจ้าเป็นผู้ช่วยเหลือ
ฟิลิปปี 4:13 กล่าวว่า "ข้าพเจ้าทำได้ทุกสิ่งในพระคริสต์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า"
· เรารับเอาพลังของพระเจ้าได้โดยการอธิษฐาน
· เรารับเอาพลังของพระเจ้าได้โดยการกล้าที่จะเชื่อฟังพระองค์
· เรารับเอาพลังของพระเจ้าได้โดยการไม่ยอมแพ้
การอธิษฐานที่มีพลังไม่ใช่เพียงแค่การขอสิ่งต่างๆ แต่รวมถึงการสรรเสริญ การขอบพระคุณ การสารภาพบาป และการแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้า
การเชื่อฟังพระเจ้าต้องอาศัยการศึกษาพระคำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เข้าใจน้ำพระทัยของพระองค์
ความอดทนในความเชื่อไม่ใช่การรออย่างเฉยๆ แต่เป็นการรอคอยอย่างมีความหวังและดำเนินชีวิตอย่างสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าต่อไป
อย่ายอมแพ้ เพราะพระเจ้าทรงทำงานเพื่อคุณแม้ในขณะที่คุณกำลังฟังเทศอยู่นี้!
พระองค์ทรงรอคอยที่จะเติมเต็มเราด้วยพลังของพระองค์ พลังที่จะช่วยให้เราก้าวผ่านความยากลำบากไปได้ และพลังที่จะทำให้เราเป็นพยานถึงความสัตย์ซื่อของพระเจ้า
คำอธิษฐานสำหรับผู้ที่อยากยอมแพ้
"พระบิดาอันเป็นที่รักของเราทั้งหลาย วันนี้ข้าพระองค์รู้สึกเหนื่อยหน่ายและอยากยอมแพ้ในเรื่อง ครอบครัว สุขภาพและความเจ็บป่วย อาชีพ ปัญหาการเงินและหนี้สิน ข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอความช่วยเหลือจากพระองค์ ให้ข้าพระองค์มีความอดทนและความเชื่อที่จะเดินต่อไป
ข้าพระองค์ทั้งหลายเชื่อว่า พระองค์ทรงทำงานในสถานการณ์นี้ แม้ว่าข้าพระองค์จะมองไม่เห็น ขอให้พระองค์ทรงเติมเต็มข้าพระองค์ด้วยพลังและความหวัง เพื่อข้าพระองค์จะได้เห็นการทำงานของพระองค์ในเวลาที่เหมาะสม
ในพระนามพระเยซูคริสต์ อาเมน"