"กล่องความทรงจำ" พระเจ้าทรงใช้เรื่องราวของเรา
วันนี้เราจะมาแกะกล่องแนวคิดที่น่าสนใจมากๆเรื่อง “กล่องความทรงจำ”
เชื่อว่าหลายคนมีกล่องนี้ของตัวเองอยู่ และของข้างในย่อมมีแตกต่างกันอาจจะเป็นรูปถ่าย สิ่งของ จดหมาย หรือของบางอย่างที่ดูเหมือนไม่มีค่า แต่มันมีค่ามหาศาลกับผู้ที่เป็นเจ้าของกล่อง
แต่วันนี้เราจะมาเปิดกล่องความทรงจำด้วยกัน แต่เป็นกล่องความทรงจำที่ใส่ เรื่องราวชีวิตของเรา แม้ว่าจะมีบางช่วงที่ดูแย่ๆ มืดมน ผิดพลาด แต่สิ่งเหล่านั้นมันถูกกลั่นออกมาเป็นสิ่งที่มีความหมาย
วันนี้มีเรื่องราวของคนสองคนที่เกี่ยวข้องกันกับ 1 บทเพลง คนหนึ่งชื่อว่า จอห์น นิวตัน อีกคนคือ บิลลี แฟรงก์ลิน สองคนนี้เกี่ยวข้องกันกับบทเพลงที่มีชื่อว่า "Amazing Grace" พระคุณพระเจ้า
เริ่มที่คนแรก จอห์น นิวตั้น ชาวอังกฤษเกิดปี 1725 ชีวิตเขานี่เรียกว่า พลิกผันสุดๆ เลย แม่เขาเสียตั้งแต่เด็กซึ่งแม่เป็นคนเคร่งศาสนามากแต่พอแม่ไม่อยู่เขาก็โตมาแบบไม่ค่อยได้ใกล้ชิดศาสนาเท่าไรแล้วก็ออกทะเลกับพ่อตั้งแต่อายุแค่ 11 ขวบ แล้วชีวิตช่วงวัยรุ่นของนั้น ออกนอกลู่นอกทางไปเยอะ มีทั้งหนีทหารติดการพนันหนักมาก แล้วก็เคยถึงขั้นตกเป็นทาสในแอฟริกาด้วย เป็นชีวิตหนักหน่วงมาก พอรอดจากการเป็นทาสมาได้ก็ผันตัวเองไปเป็นผู้ค้าทาสเสียเอง ชีวิตดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ แต่ว่ามันก็มีจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่จริง ๆ เกิดขึ้นในปี 1748
เรือที่เขาโดยสารนั้นเจอพายุรุนแรงกลางทะเล เกือบจะจม ในนาทีเป็นนาทีตายนั่นเองเขาได้อธิษฐานถึงพระเจ้าเป็นครั้งแรกในชีวิต แล้วก็รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ นี่เป็นเหตุการณ์ของประสบการณ์ที่แบบเฉียดตายสุดๆ กับความรู้สึกว่า มีบางอย่างที่เหนือกว่าช่วยเขาไว้ ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยนมุมมองชีวิตเขาไปจากคนที่ไม่เชื่ออะไรเลย ก็เริ่ม
เขาเลิกอาชีพค้าทาสแล้วก็หันมาศึกษาพระคัมภีร์อย่างจริงจังมาก จนกระทั่งได้เป็นศิษยาภิบาลในปี 1764 แล้วพอมาเป็นผู้รับใช้พระเจ้า เขาก็แต่งเพลงนมัสการ เพื่อใช้ในคริสตจักร หนึ่งในนั้นก็คือ Amazing Grace หรือ พระคุณพระเจ้า ที่แต่งขึ้นประมาณปี 1779 เนื้อหาเพลงนี้ สะท้อนชีวิตเขาที่ผ่านมา
กล่องแห่งความทรงจำของ จอห์น นิวตัน คือชีวิตของเขาตั้งแต่วัยเด็ก การใช้ชีวิตที่เหลวแหลก กลายเป็นทาส และเป็นพ่อค้าทาส ประสบกับพายุ และพบกับพระเจ้า วันหนึ่งเขาได้เปิดกล่องนี้ มันกลายเป็นเพลง "Amazing Grace" พระคุณพระเจ้า เพลงนี้มีอิทธิพลมาถึงทุกวันนี้
มีเรื่องราวอีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องของ บิลลี แฟรงก์ลิน (Billy Franklin)
เรื่องราวของบิลลี แฟรงก์ลิน
ตอนนั้นคือเขากำลังติดคุกอยู่ รู้สึกว่าชีวิตมันบัดซบมาก
แล้ววันหนึ่งก็มีกลุ่มคริสเตียนมาเยี่ยมที่คุกแล้วก็มาร้องเพลง Amazing Grace พอถึงท่อน พระคุณพระเจ้านั่นแสนชื่นใจ ช่วยได้คนชั่วอย่างฉัน บิลลี่เล่าว่า มันเหมือนมีอะไรบางอย่าง กระแทกเข้ามาในใจเขา เขารู้สึกว่า “เฮ้ย เพลงนี้มันเหมือนเขียนมาเพื่อเขาคนเดียวเลยนะ” ทำให้เขาคิดได้ว่า ถึงชีวิตเรามันจะแย่ จะผิดบาปมาแค่ไหนแต่ พระคุณของพระเจ้า ก็ยังยิ่งใหญ่พอที่จะให้อภัยให้เริ่มต้นใหม่ได้
บิลลี่เลยตัดสินใจ กลับใจ มอบชีวิตให้พระเยซูในคุกวันนั้นเลย เปลี่ยนชีวิตเลย และบิลลี่ แฟรงก์ลิน ก็ใช้เพลง Amazing Grace นี่แหละครับไปมอบความหวังและประกาศให้คนรู้จักพระเจ้า
เรื่องราวของบิลลี แฟรงก์ลิน สะท้อนให้เห็นว่า "Amazing Grace" ไม่ได้เป็นเพียงแค่เพลง แต่เป็นกล่องแห่งความทรงจำของ จอห์น นิวตัน เป็นเครื่องมือของพระเจ้าที่สามารถเปลี่ยนชีวิตได้จริง ๆ เพราะเนื้อเพลงที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังนี้ สื่อสารความจริงที่ว่า ไม่ว่าอดีตจะเลวร้ายแค่ไหน พระคุณของพระเจ้าก็ยิ่งใหญ่เกินกว่าความบาปใด ๆ ของมนุษย์
**เรื่องราวนี้ได้ชี้ไปที่อีกส่วนหนึ่งที่พูดถึงเรื่องคล้ายๆ กันนี้ ก็คือในพระธรรมสดุดีบทที่ 107 ข้อ 1 ถึง 9
เป็นคำเทศนาเรื่อง "กล่องความทรงจำ" พระเจ้าทรงใช้เรื่องราวของเรา จากสดุดี 107 ข้อที่ 1-9
สดุดี 107 ข้อ 1-9 กล่าวว่า "1จงโมทนาขอบพระคุณพระเจ้า เพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์ 2ให้ผู้ที่พระเจ้าทรงไถ่ไว้แล้วกล่าวดังนั้นเถิด คือผู้ที่พระองค์ทรงไถ่ไว้จากมือของปรปักษ์ 3และรวบรวมเข้ามาจากแผ่นดินทั้งหลาย จากตะวันออก และจากตะวันตก จากเหนือและจากใต้ 4บ้างก็พเนจรอยู่ในป่าในที่แห้งแล้ง หาไม่พบทางที่จะเข้านครซึ่งพอจะอาศัยได้ 5หิวโหยและกระหาย จิตใจของเขาก็อ่อนระอาไปในตัวเขา 6แล้วในความยากลำบากของเขา เมื่อเขาร้องทูลพระเจ้า พระองค์ทรงช่วยกู้เขาจากความทุกข์ใจของเขา 7พระองค์ทรงนำเขาไปในทางตรง จนเขามาถึงนครซึ่งพอจะอาศัยได้ 8ให้เขาขอบพระคุณพระเจ้า เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ เพราะการอัศจรรย์ของพระองค์ที่มีต่อบุตรของมนุษย์ 9เพราะผู้ที่กระหาย พระองค์ทรงให้เขาอิ่ม และผู้ที่หิว พระองค์ทรงให้เขาหนำใจด้วยของดี"
ในพระคัมภีร์ สดุดี 107 ข้อ 1-9 ผู้เขียนได้เห็นภาพของ การขอบพระคุณพระเจ้า ที่ทรงช่วยให้พ้นจากความยากลำบาก
มีสามคำสอนหลักจากพระคัมภีร์สดุดีตอนนี้ ดังนี้:
1. จงสรรเสริญและขอบพระคุณพระเจ้าในทุกสถานการณ์
สดุดี 107 ข้อ 1-2 เน้นย้ำให้เรา ขอบพระคุณพระเจ้า เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์ และให้ผู้ที่พระองค์ได้ทรงไถ่แล้วกล่าวเช่นนั้น นี่คือการเตือนใจว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความทุกข์ยากลำบากใด ๆ เราก็ยังมีเหตุผลที่จะขอบพระคุณพระเจ้าเสมอ เพราะพระคุณและความรักของพระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
2. พระเจ้าทรงช่วยกู้ผู้ที่ร้องทูลขอความช่วยเหลือ
ข้อ 4-7 บรรยายภาพของคนที่ "หลงทางในที่แห้งแล้งและไม่พบเมืองที่จะอาศัยอยู่" พวกเขาหิวโหยและกระหายจนจิตใจอ่อนเปลี้ย แต่เมื่อ "พวกเขาร้องทูลพระเจ้าในความทุกข์ใจของเขา พระองค์ทรงช่วยกู้พวกเขาให้พ้นจากความทุกข์ใจนั้น" นี่เป็นคำสอนที่สำคัญว่า พระเจ้าพร้อมจะช่วยเหลือและตอบสนอง ผู้ที่กลับใจและเรียกหาพระองค์จากก้นบึ้งของหัวใจจะได้รับการช่วยเหลือ
3. พระเจ้าทรงพอพระทัยที่จะตอบสนองความต้องการของเรา
ข้อ 9 บอกว่า "เพราะพระองค์ทรงให้อิ่มแก่ผู้กระหาย และทรงให้ผู้หิวโหยเต็มด้วยสิ่งดี" คำสอนนี้แสดงให้เห็นว่า พระเจ้าไม่ได้เพียงแค่ช่วยเราให้รอดพ้นจากความทุกข์ยากเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงเติมเต็มความต้องการขั้นพื้นฐานของเราด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางกาย ทางจิตใจ หรือทางจิตวิญญาณ พระองค์ทรงจัดเตรียมทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ที่วางใจในพระองค์
เรื่องราวของแต่ละคนในพระธรรมสดุดีบทนี้เป็นเหมือน "กล่องความทรงจำ" ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดหรือช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสำเร็จ ทุกอย่างล้วนมีคุณค่าในสายพระเนตรของพระเจ้า บางครั้งเราอาจรู้สึกว่าเรื่องราวของเราดูธรรมดา ไม่น่าสนใจ หรือเต็มไปด้วยความล้มเหลว แต่พระเจ้าสามารถใช้เรื่องราวเหล่านั้นเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ได้
เปิดกล่องความทรงจำของเรา (มีกล่องข้อพระคัมภีร์)
ลองใช้เวลาสักครู่ใคร่ครวญถึงชีวิตของคุณที่ผ่านมา:
หากคุณกำลังรู้สึกเหมือนหลงทางในชีวิต เรากำลังเดินอยู่ในหนทางที่แห้งแล้ง ไม่รู้จะไปทางไหน ขอให้คุณเปิด "กล่องความทรงจำ" ของคุณอีกครั้ง แล้วมองหาช่วงเวลาที่พระเจ้าได้เข้ามาช่วยเหลือคุณอย่างอัศจรรย์ ความทรงจำเหล่านั้นไม่ใช่แค่เรื่องราวส่วนตัวของคุณอีกต่อไป แต่เป็นพยานถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่ทำงานในชีวิตของคุณ
คำอธิษฐาน:
ข้าแต่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ข้าพระองค์ขอขอบพระคุณพระองค์สำหรับเรื่องราวในชีวิตของข้าพระองค์ ทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์มองเห็นว่าพระองค์ทรงทำงานอยู่ในทุกช่วงเวลาที่ผ่านมา และขอให้เรื่องราวของข้าพระองค์เป็นพยานถึงความรักและความสัตย์ซื่อของพระองค์ต่อผู้อื่นได้ ขอถวายเกียรติแด่พระองค์แต่เพียงผู้เดียว ในนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
คุณสามารถแบ่งปันเรื่องราวของตัวเองกับคนรอบข้างเพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาได้ และให้เรื่องราวของคุณเป็นแสงสว่างที่สะท้อนความรักของพระเจ้าต่อไป
ร้านหนังสือฮากิออส